[รีวิว] Little Witch Academia : Toki no Mahou to Nana Fushigi

รู้จักเรื่อง Little Witch Academia ไหมครับ?

อนิเมเรื่องนี้เกิดขึ้นโดยทีม Trigger Studio ซึ่งเดิมที ถูกสร้างขึ้นมาโดยรวบรวมเงินผ่าน Kickstarter เมื่อปี 2013 และเริ่มฉายเป็นเวอร์ชั่นซับภาษาอังกฤษเมื่อปี 2015 ในภาคหนังโรงชื่อว่า  Little Witch Academia: The Enchanted Parade และถูกเอามาทำเป็น TV Series ใหม่อีกครั้งในปี 2017 ลง Netflix เป็นจำนวน  2 season 25 ตอน จบไปเรียบร้อยแล้ว

เนื้อเรื่องย่อ

เด็กสาวนามว่า อัทซึโกะ คางาริ หรือเรียกสั้นๆว่า อั๊กโกะ เป็นเด็กสาวที่มีความหลงไหลใน ไชนี่ ชาริออต แม่มดสาวที่เอาเวทย์มนต์มาใช้แสดงให้ผู้คนได้ดูอย่างตระการตา ทำให้อั๊กโกะนั้นอยากจะเป็นอย่างไชนี่ ชาริออต ให้ได้ แต่แล้ววันหนึ่ง ไชนี่ ชาริออต ก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย อั๊กโกะจึงตัดสินใจเข้าโรงเรียน ลูน่าโนว่า ซึ่งเป็นโรงเรียนสอนแม่มด บังเอิญไปเจอคทาไชนี่ร๊อดของไชนี่ ชาริออต ขณะเดินทางมาโรงเรียน อั๊กโกะ คิดว่าจะเอาคทานี้ไปคืนให้กับไชนี่ ชาริออต ซักวันจะต้องได้เจอ ไชนี่ ชาริออต ที่หายตัวไปแน่ๆ แต่อั๊กโกะนั้นเป็นแค่ลูกของคนธรรมดา จึงไม่สามารถใช้เวทย์มนต์ได้เลย แม้แต่ไม้กวาดก็ยังขี่ไม่ได้เลย ก็เลยต้องพยายามมากกว่าใครๆ ทำให้เกิดเหตุอลเวง และชื่อเสียง(ในด้านลบๆ)ในโรงเรียน


ส่วนตัวผมรู้จักผ่านๆ รู้แค่ว่ามีเรื่องแบบนี้แต่ไม่เคยดู  จนกระทั่งเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปีที่แล้ว (2017) เกมก็วางขายบน PS4 และมี Demo ให้ลองโหลดเล่น

หลังจากผมลองเล่นเดโมแล้ว ก็พบว่าในเกมมีพูดถึงความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละคน ซึ่งผมเข้าไม่ถึง ผมเลยตัดสินใจเข้า Netflix ไปดูรวดเดียวจบเลย สาเหตุที่ดูรวดเดียวจบนั้น แน่นอน เป็นเพราะว่ามันสนุกเหลือเกิน สนุกจนหยุดดูไม่ได้ และผมยกให้เป็นอนิเมที่ผมชื่นชอบที่สุดในช่วงปี 2015-2017 เลย อยากให้ไปลองดูกันครับ

หลังจากดูอนิเมจบผมก็ตัดสินใจซื้อเกมทันที เพราะว่าผมกลายเป็นแฟนเรื่องนี้ไปเสียแล้ว แต่หาซื้อในไทยไม่ได้ เลยต้องฝากเพื่อนที่บังเอิญไปญี่ปุ่นพอดี สอยกลับมาให้เป็นแบบแผ่นมือสอง XD

เนื้อเรื่องย่อในเกมส่วนเดโม

ตัวเกมเป็นเนื้อเรื่องช่วงกลางๆของอนิเมซีรี่ย์ Season 1 บังเอิญเป็นช่วงวันหยุดปิดเทอมแรกของอั๊กโกะ ซึ่งทุกคนกำลังเตรียมตัวจะกลับบ้านช่วงปิดเทอมกัน

วันการี่ ชมรมหนังสือพิมพ์ก็เสนอข่าวใหญ่ประจำวัน เกี่ยวกับสิ่งลึกลับทั้งเจ็ด ในโรงเรียน ซึ่งมีดังนี้
1. มือที่โผล่ขึ้นมาจากพื้น ดึงคนที่ถูกจับลงไป
2. ภาพวาดที่ไม่มีใบหน้า กลับมีลูกตาโผล่ออกมา
3. ตุ๊กตาคำสาป ที่เดินแบบบ๊อกสเต๊ป ?
4. ยาน UFO ปริศนาตอนกลางคืน
5. เก้าอี้ในห้องอาหารที่เปียกตลอดเวลา
6. หุ่นโครงกระดูกจำลองโครงสร้างมนุษย์วิ่งได้
7. วิญญานในห้องสมุด

อั๊กโกะโดนอาจารย์ฟินเนลันเรียกพบที่ห้องพักครู เพราะอั๊กโกะทำอุปกรณ์เวทย์มนต์ในโรงเรียนพัง เพราะว่ายาพิลึกของซูชี่ทำให้อั๊กโกะอาละวาดพังข้าวของพังหมด

อาจารย์ฟินเนลันเลยสั่งให้จัดหนังสือในห้องสมุดให้หมดภายในปิดเทอมเป็นการลงโทษ หากทำไม่เสร็จจะถูกไล่ออกจากโรงเรียน

แต่จำนวนหนังสือในห้องสมุดนั้นไม่ใช่น้อยๆเลย อั๊กโกะจึงต้องพยายามเก็บหนังสือในชั้นคนเดียว โดย ล๊อตเต๊ รูมเมทของอั๊กโกะสัญญาว่า เมื่อเสร็จธุระแล้วจะรีบมาช่วย

อั๊กโกะ พยายามเก็บหนังสือไปตั้ง 4 เล่ม แล้วก็หลับไปยันถึงเย็น ขณะที่อั๊กโกะนอนอยู่ ก็มีบุคคลปริศนา เอาหนังสือลึกลับ ที่มีร่องรอยของเวทย์มนต์ มาวางไว้ข้างๆ อั๊กโกะ แล้วก็หายตัวไป

เวลา 4 โมงเย็น ล๊อตเต้ เข้ามาปลุกอั๊กโกะ ที่เก็บกวาดหนังสือไปได้แค่ 4 เล่มเท่านั้น  ทั้งสามคนเลยช่วยกันเก็บหนังสือกันต่อ

อั๊กโกะ เห็นหนังสือประหลาดที่วางอยู่หน้าตัวเอง เลยหยิบไปเข้าชั้นหนังสือ จู่ๆก็เกิดแผ่นดินไหว และชั้นวางหนังสือริมสุดของห้องสมุดก็ขยับ โผล่มาเป็นประตูลับ

พออั๊กโกะยื่นมือไปจับ ก็เกิดปลดผนึกเวทย์มนต์ของประตูนี้ออก และประตูก็ถูกเปิดมาเป็นบันไดทางลงไปชั้นใต้ดิน

ในชั้นใต้ดินนั้นมีห้องที่เหมือนห้องเก็บของธรรมดาอยู่ และมีห้องข้างๆเป็นนาฬิกาขนาดใหญ่ และ อีกห้องนึงเป็นประตูขนาดใหญ่

ข้างๆประตูขนาดใหญ่อั๊กโกะเจอกุญแจอยู่ในตู้ อั๊กโกะเลยตัดสินใจลองเอากุญแจไขประตูดู พอลองดึงประตูไม่ได้ ก็เลยผลักประตูดู แต่ก็ทำให้เสียหลัก แล้วอั๊กโกะก็ร่วงลงไป โดยดึงล๊อตเต้ กับ ซูชี่ ลงไปด้วยเลย

พวกอั๊กโกะรู้สึกตัวอีกทีก็มาอยู่ในดันเจี้ยนหรือสถานที่โบราณ

และนี่คือจุดเริ่มต้นของ Gameplay

ตัวเกมเป็น Sidescroll Action โดยกดเลือกสกิลโจมตี และมี Cooldown รวมถึงมี MP สำหรับใช้เวทย์มนต์ด้วย เป้าหมายของดันเจี้ยนคือไปให้ถึงสุดทางและจัดการบอสในฉากนั้นให้ได้ ก็จะจบมิชชั่น

น่าแปลกที่ อั๊กโกะ ที่เดิมทีใช้เวทย์มนต์ไม่ได้เลย แต่พอมาอยู่ที่ดันเจี้ยนนี้กลับใช้ได้เฉย  แต่แน่นอนว่า อั๊กโกะ ไม่มีความรู้ด้านเวทย์มนต์เลย ทำให้ MP เริ่มต้นนั้น ก็ดังภาพนี้ แต่ด้วยความที่เจ้าตัวเป็นพวกแนวถึก เลยทำให้ HP สูงกว่าเพื่อนเลย

พอกลับมาได้ อั๊กโกะ ดีใจมากที่ตัวเองใช้เวทย์มนต์ได้ แต่เพื่อนๆคิดว่าคงแค่บังเอิญล่ะมั้ง อั๊กโกะเลยลองใช้อีกที ก็กลายเป็นว่าไม่รอดเหมือนเดิม อั๊กโกะกลับใช้เวทย์มนต์แค่ในดันเจี้ยนเท่านั้น

ล๊อตเต้ แนะนำให้เอาเรื่องนี้ไปบอกครูดีกว่าไหม เพราะว่าน่าจะมีเหตุผลอะไรซักอย่าง ห้องนี้ถึงถูกผนึกเอาไว้ก็ได้  แต่อั๊กโกะไม่อยากให้บอกอาจารย์ เพราะว่ากลัวโดนจับได้ว่าอู้ลงโทษให้ทำความสะอาดห้องสมุด อาจโดนไล่ออกก็ได้  จึงเก็บเป็นความลับกันสามคน

ทั้งสามคนกลับห้องนอน กะว่าวันรุ่งขึ้นมาจัดการห้องสมุดให้เสร็จๆไปเลยดีกว่า

แต่พอถึงเที่ยงคืน นาฬิกาก็หมุนทวนกลับไปที่ 8 โมงเช้าอีกครั้ง อั๊กโกะตื่นมาตั้งใจจะไปจัดการห้องสมุดต่อ แต่ซูชี่รู้สึกถึงการเจริญเติบโตของเห็ดที่ปลูกไว้นั้นแปลกๆ

อั๊กโกะ มุ่งหน้าไปห้องสมุด แต่ก็พบกับคนอื่นในโรงเรียน ที่อยู่จุดเดิม เวลาเดิม และถามคำถามเดิมๆ ทั้งๆที่เมื่อวานอธิบายไปหมดแล้ว แต่ไม่มีใครจำได้เลย

พอมาถึงห้องสมุดก็พบว่า หนังสือที่จัดเก็บไปกว่า 70% แล้ว ถูกกลับมาวางไว้บนโต๊ะเหมือนเดิมหมดเลย

ทีแรกอั๊กโกะคิดว่าถูกใครแกล้งรึเปล่า แต่ล๊อตเต๊คิดว่าไม่น่าใช่ เพราะถ้าจะแกล้ง ทำไมต้องวางหนังสือเหมือนกับเมื่อวานเปี๊ยบเลย แต่ทั้งสามคนก็ไม่คิดอะไร จัดหนังสือให้เสร็จ แล้วก็ผ่านไปอีกวันนึง ตื่นมาอีกวัน ก็พบว่าทุกอย่างเหมือนเดิมหมด เพื่อนในโรงเรียน กับ คำถามเดิมๆ ซึ่งทำให้อั๊กโกะเริ่มจะกลัวกับสิ่งแปลกๆที่เกิดขึ้นนี้ ขึ้นมาแล้ว

แต่ในครั้งนี้ กลุ่มอามันด้า ยัสมินก้า คอนสแตนเช่ และ ไดอาน่า เพื่อนร่วมชั้นและคู่ปรับของอั๊กโกะ ก็เห็นความผิดปกติของอั๊กโกะ เลยตามเข้ามาในห้องสมุด และรับรู้ความลับของประตูเข้าให้แล้ว

ทั้งสองคนยังไม่เชื่อเรื่องที่เกิดขึ้น และพอขึ้นวันใหม่ก็พบว่าทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิมด้วยจริงๆ โดยทั้งสองคน ที่เข้ามาในห้องลับแล้ว ไม่ถูกย้อนความทรงจำกลับไปด้วย

ไดอาน่า นักเรียนอันดับ 1 ของโรงเรียนลูน่าโนว่า สันนิษฐานว่า ประตูขนาดใหญ่ในห้องนี้ นั่นคือประตูโฮโลโลเกียม ซึ่งเป็นประตูในตำนานของโรงเรียน และถูกซ่อนเอาไว้ด้วยสาเหตุใดซักอย่าง โดยไดอาน่าเสนอตัวเองเข้าไปในประตูโฮโลโลเกียมด้วย เมื่อถึงปลายทางของประตูก็ได้เจอกับกุญแจดอกใหม่ พอใช้กุญแจดอกใหม่ ก็ไปในสถานที่ๆไม่เหมือนเดิม

ไดอาน่า คิดว่าปลายทางของประตูต้องมีสาเหตุที่นาฬิกานั้นย้อนเวลากลับแน่ๆ ทุกคนจึงตามหาปริศนาของประตูในครั้งนี้กัน

จบเนื้อเรื่องใน Demo ณ ตรงนี้

เกมเพล์ย

เป็นอย่างที่อธิบายไปในเนื้อเรื่องย่อ ว่าเป็นเกม Sidescroll Action โดยจะมีความสูง ความต่ำ ของมุมที่ตัวละครยืน ซึ่งอาจจะรำคาญในช่วงแรกๆ ที่เราโจมตีศัตรูไม่ได้ เพราะว่ายืนตำแหน่งไม่ตรงกัน

แรกๆจะน่ารำคาญหน่อยตรงที่ MP ของอั๊กโกะนั้นจะน้อยมากๆ เราจะต้องอัพ Status Point ตามสิ่งที่เราอยากจะให้เกิด

Vit เพิ่ม HP และพลังป้องกัน
STR เพิ่มพลังโจมตี
INT เพิ่มพลังโจมตี และ MP
AGI เพิ่มโอกาส Critical และ การหลบหลีก
LUK เพิ่ม Critical และ การหลบหลีก และโอกาสดรอบของแรร์

ตัวละครสามารถใส่เวทย์มนต์ได้ 6 ท่า โดยจะมีธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ ตามหลัก ต้องเลือกใช้โจมตีศัตรูให้ถูกหลัก ไม่งั้นจะโจมตีไม่เข้าเลย

เวทย์มนต์นั้นจะได้จากราศี โดยแต่ละราศีนั้นปลดตามเควสเนื้อเรื่อง หรือ เก็บไอเทมพิเศษในโรงเรียนได้ จะทำให้เราได้สกิลใหม่มา แต่ก็จะต้องใช้ Skill Point มาอัพด้วย โดยตัวละครเลเวลอัพ 1 ก็ได้ 1pts เท่านั้น

การลงดันเจี้ยนนั้น สามารถเลือกลงได้ทั้งหมด 7 ตัวละคร คือ อั๊กโกะ ล๊อตเต๊ ซูชี่ อามันด้า คอนสแตนเช่ ยัสมินก้า และ ไดอาน่า

โดยแต่ละคนนั้น หากเอามาเป็นหัวหน้าปาร์ตี้ ก็จะมีสกิลพิเศษไม่เหมือนกันด้วย

อั๊กโกะ – ทำให้เพื่อนร่วมปาร์ตี้อีกสองคนได้ค่าประสบการณ์เท่าตัว
ล๊อตเต๊ – มีภูติในฉากคอยบอกจุดซ่อนของหีบสมบัติ และสามารถโจมตีจุดอ่อนของศัตรูได้แรงขึ้น
ซูชี่ – ตามฉากในดันเจี้ยนจะมีเห็ดเกิด เมื่อเก็บ จะได้สถานะพิเศษ
อามันด้า – ทำให้หินเวทย์มนต์ และเงินที่ได้รับ x2
คอนสแตนเช่ – มีหุ่นยนต์ลูกน้องตามไปด้วย
ยัสมินก้า – เมื่อเปลี่ยนฉากในดันเจี้ยน เพื่อนร่วมทีมจะฟื้นพลัง HP
ไดอาน่า – รู้ HP และจุดอ่อนของศัตรูได้ เป็นต้น

ตัวเกม ทำมาให้ลงดันเจี้ยนซ้ำ เพื่อหาของแรร์ อย่างอาวุธเพิ่มสถานะการโจมตีศัตรูประเภทต่างๆ เครื่องประดับเพิ่ม HP ลด Cooldown เวทย์มนต์ หรือโจมตีศัตรูแล้ว MP Regen เป็นต้น

โดย Rank ของอาวุธจะมีทั้งแต่ S A B C D E

พูดถึงสไตล์เนื้อเรื่องเกม

ตัวเกมเป็น สไตล์ Loop โดยจะมีช่วงเวลาในเกมตั้งแต่ 8 โมงเช้า จนถึงเที่ยงคืน โดยจะต้องทำ Sub Event ในช่วงเวลา 1 วันให้เสร็จ โดยแต่ละ Event นั้นก็จะมีช่วงเวลาที่ต่างกัน อย่างเช่น เริ่มเควส 8 โมงเช้า เควสต่อเนื่อง เที่ยงวัน  ต่ออีก บ่ายสี่ และจบเควสที่ 3 ทุ่ม  หากทำเควสนั้นๆไม่เสร็จในวันนั้น พอขึ้นวันใหม่ ต้องทำใหม่หมดเลยตั้งแต่ต้นเควส

แต่นี่ล่ะ คือสเน่ห์ของเกม Loop โดยเราผู้เล่นจะต้องมานั่งจดเวลาละ ว่าใครอยู่ที่ไหนบ้าง กี่โมง เป็นสิ่งที่ทำให้ผมปวดหัวมาก แต่ก็สนุกกับมันมากๆเลย

ในส่วนของโรงเรียนลูน่าโนว่า นั้นในหลายๆ Event จะต้องใช้ไอเทมช่วยเหลือ อย่างเช่น Event ถังน้ำพัง ก็ต้องใช้ ยาเวทย์มนต์ซ่อมแซม ซึ่งทำให้อั๊กโกะใช้เวทย์มนต์ซ่อมแซมได้ เป็นต้น

แต่ยานั้นจะต้องไปซื้อที่สหกรณ์ของโรงเรียนด้วย โดยใช้หินเวทย์มนต์ซื้อเท่านั้น ไม่สามารถใช้เงินซื้อได้ โดยหินเวทย์มนต์นั้นจะดรอบจากมอนสเตอร์จากดันเจี้ยนเท่านั้น

มาพูดถึงข้อดี ข้อเสีย ในเกมบ้าง

ข้อดี

  • อย่างแรกเลยคือผมชื่นชอบมากๆที่สุดเลยก็คือ ตัวเกมเป็น Full Voice ทุก NPC ทุกสถานการณ์ มีเสียงพูดหมดเลย ซึ่งทำให้ผมที่โง่ Reading ภาษาญี่ปุ่น นั้นสามารถเล่นได้อย่างสนุก และเพลิดเพลินมากๆ
  • เพลงประกอบดีมากๆ
  • เควสเยอะมากๆ และไม่ซ้ำซากเลย มีไอเดียในการทำเควสต่อเนื่องที่ดีใช้ได้
  • ตัวละคร ที่โผล่มาในเกมนั้น แทบจะทุกตัว มาจากในอนิเมหมดเลย เป็นตัวประกอบในอนิเม เอามาใช้ต่อให้เราหวนคิดถึง
  • ตัวเกมนั้นอธิบายในส่วนของตัวละครต่างๆมากขึ้น ว่าใครชอบอะไร บางอย่างที่ในอนิเมไม่อธิบาย ก็เอามาบอกในเกมหมดเลย

ข้อเสีย

  • ระบบ Sidescroll Action ที่เข้าใจมุมยืนยาก บางทีสู้บอสเราใส่ทุกอย่างไปหมดเลย แต่ปรากฏว่าเวทย์ไม่โดนบอสเลยซักอย่างเดียว ทำให้เสียเวลาในการต่อสู้มาก
  • เสียงพูดของตัวละครนั้น มีแค่เสียงเดียวต่อ 1 action  อย่างเช่น ซูชี่โจมตี พูดว่า (この程度か ประมาณนี้เรอะ) ก็พูดอยู่นั้นล่ะ ซ้ำซากๆ จนน่ารำคาญไปหน่อย
  • AI เพื่อนร่วมทีม โง่สมกับเป็นเกมของ Bandai Namco AI เกมค่ายนี้ โง่ทุกเกม รับท่าใหญ่ของบอสหมด ไม่ยอมหลบ เพิ่มความยากให้กับเกมมาก
  • ระบบขายของในเกมนั้น ไม่มีการขายแบบขายรวดเดียว ต้องมาน่ั่งขายของทีละชิ้นๆ ซึ่งน่าเบื่อมาก
  • บางเควสให้ลงดันหาของ แต่กลับไม่มีอะไรช่วยเตือนเลยว่า เควสทำไปเท่าไรแล้ว เก็บไปกี่ชิ้นแล้ว  ต้องมาคอยเปิด inventory เช็คจำนวนของเอง

เอาล่ะ โดยรวมของเกมก็บอกไปหมดแล้ว สุดท้าย เราก็อยากจะให้ใครที่เป็นแฟนซีรี่ย์นี้ ยังไงก็ต้องเล่นให้ได้ล่ะ มันคุ้มมากๆเลย เชื่อว่าถ้าเล่นแล้วเก็บ Event ครบหมด จะรู้สึกอิ่มกับเกมมันมากๆ

ใครห่วงว่าอ่านญี่ปุ่นไม่ออก ก็ไม่ต้องคิดมาก ตัวเกมจะออกภาษาอังกฤษในวันที่ 27 มีนาคม 2018 และ จะตามมาในเวอร์ชั่น Steam ด้วยนะ !

ส่วนเรา เก็บ Platinum ในเกมไปหมดแล้ว เหนื่อยมาก แต่ก็สนุกมากเลย XD

Comments

タイトルとURLをコピーしました